วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

KING HEARTS สองหัวใจองค์ราชันย์ KRISLU ft KAIHUN

King Hearts สองหัวใจองค์ราชันต์

KrisHan ft.KaiHun

By: Pekky_Dekdow



ณ ดินแดนอันไกลโพ้น

ที่ปราสาทสูงของเมืองเมืองหนึ่งเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน วันนี้ช่างน่าประหลาดที่ชาวเมืองมองเห็นพระจันทร์ดวงโตที่กระทบผิวน้ำของแม่น้ำลูฮาร์ลซึ่งเป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่ที่สุดในขอบเขตของเมืองนี้ 
แสงประหลาดจากห้องทั้งสองห้องจากตัวประสาทสาดส่องแผ่รังสีไปทั่วทุกเขตมุมเมือง

"อย่า...เจ้าอย่าเพิ่งไปซิ" เสียงขององค์รัชทายาทองค์โตเอ่ยทั้งที่ดวงตายังคงปิดสนิท
"ตามเรามาซิ ตามหาเราให้เจอ" ภาพสาวงามค่อยๆเลือนลางและจางหายไปในที่สุด นางวิ่งหายไปท่ามกลางสายหมอกสีขาว

"เดี่ยว...รอเราก่อน" สะดุ้งตื่นเต็มตา พร้อมกับก้อนเนื้อด้านซ้ายที่เต้นระรัวเหมือนเสียงกลองที่ดังอึกทึกไปทั่วเมืองในขณะนี้

"เกิดเรื่องอะไรขึ้น ข้างนอกเสียงเอะอะโวยวายอะไรกัน" องค์รัชทายาทอี้ฝานเอ่ยถามนางกำนัลที่ยืนอยู่หน้าห้อง

"เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะองค์รัชทายาท องค์ชายคิมไคเพคะ"  เพียงได้ยินชื่อของน้องชายก็เกรงว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับผู้เป็นน้อง มือเรียวหยิบคันธนูคู่ใจพร้อมกับศรธนูชุดดำดูองค์อาจบวกกับรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าอันหล่อเหลาที่ยากจะมีใครเทียมเดินไปที่ลานหน้าเมือง

"ไงน้องพี่มีเรื่องอันใดกัน" ชายหนุ่มผิวเข้มหันมายกยิ้ม พร้อมกับดึงตาข่ายคล้ายๆกับตาข่ายจับนกยังไงยังงั้น
"ท่านพี่ดูนี่ นางผู้นี้ประหลาดนัก เนื้อตัวนางเป็นสีขาวอมชมพู รูปร่างผอมบางและที่สำคัญนางมีปีกที่หลังคล้ายกับผีเสื้อ ข้ากำลังคิดว่านางเป็นกาลกินีของบ้านเมือง ข้าจะเผานางทิ้งซะ"  เพียงได้ยินคำขู่ของชายหนุ่ม หญิงงามในตาข่ายถึงกับตาโต นางกำลังกลัว นางต้องการหนี

"เผานาง ๆ ๆ ๆ " เสียงของประชาชนที่มาเฝ้าดูเหตุการณ์ดังอึกทึก ต้องการให้เผานางทิ้งซะ

"ช้าก่อน" มือเรียวยาวดึงปลายตาข่ายมาจากมือของผู้เป็นน้อง
"ข้าจะปล่อยเจ้า หากเจ้ายอมเงยหน้าขึ้นมาพูดกับข้าซักครั้ง" วาดแขนกอดเอวบางนั้นเอาไว้โดยไม่ขอเจ้าตัวซักคำ  ร่างบอบบางในอ้อมแขนแกร่งที่ซุกใบหน้าอยู่บนแผงอกค่อยๆเงยหน้าขึ้น ดวงหน้าหวาน ริมฝีปากสีชมพูอิ่ม ดวงตากลมใสมีน้ำสีใสคลอเบ้าเล็กน้อย  ดวงหน้าสวยคล้ายดั่งนางในฝันเมื่อครู่ ร่างสูงตกใจเผลอปล่อยร่างกายบางนั้น ทันทีที่หลุดจากพักธนาการ นางพยายามที่จะบินหนี หากแต่ก่อนหน้าที่จะถูกจับมานางถูกศรธนูยิงจนปีกของนางได้รับบาดเจ็บ

"อ๊ะ" นางล้มลงไปกองกับพื้น 
"พี่ลู่หาน..ฮึก" น้องสาวของนางที่มาเฝ้าดูเหตุการณ์ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว ร่างกายบางสูงสง่า วิ่งตรงมาประคองพี่สาวของตน ชุดขาวสะอาดกระโปรงสีขาวบางจนเห็นเรียวขาเรียวสวยขาวดุจน้ำนม ทำให้องค์ชายอีกคนตกตะลึงตามพี่ชายตัวเอง

"เราหนีกันเถอะ" ผู้เป็นน้องประคองพี่สาวของตัวเองขึ้น พร้อมกับบินขึ้นไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว หากแต่คงเร็วไม่เท่าศรธนูขององค์ชายคนเล็ก ที่ยิงสวนทะลุร่างกายบางของเด็กสาวชุดขาว ปีกสีขาวของนางมีน้ำสีฟ้าไหลออกมา เปรียบกับมนุษย์เราคงเป็นเลือดดีๆนี่เอง

'ตุบ' ร่างกายบางร่วงลงสู่พื้น

"เซฮุน" คนเป็นพี่คืบคลานไปหาน้องสาว เพียงแค่เอื้อมมือก่อนจะถึงมือน้องสาวของตนกลับหมดสติไปเสียง่ายๆ




เสียงนกร้องยามเช้าดัง จิ๊บ จิ๊บ

หญิงสาวสองนางที่ถูกนำร่างมาวางไว้บนเตียงนุ่มขาวสะอาดยังคงไม่ได้สติ

"ไค" คนเป็นพี่เอ่ยเสียงเข้ม
"หื้ม" เลิกคิ้วพร้อมขานรับคนเป็นพี่

"พี่ว่าเจ้าทำเกินไปแล้วครั้งนี้ เจ้าเล่นจนเคยชินจนไม่แยกแยะอะไรๆให้ดีซะก่อน" เอ็ดคนเป็นน้องพร้อมแสดงความเป็นห่วงคนที่หลับไม่รู้เรื่องออกมาอย่างเห็นได้ชัด

"เจ้าต้องรับผิดชอบดูแลนางจนกว่าพวกนางจะหายดี" ออกคำสั่งเด็ดขาด

"งั้น" ร่างสูงผิวสีแทนเดินไปข้างๆหญิงนางที่ใส่ชุดสีขาวสะอาดพร้อมกับช้อนร่างอันไร้สติขึ้นมาแนบอก
"อะไรกัน" เอ่ยถามคนเป็นน้องทั้งที่รู้ว่านี่คือการต่อรองของคิมไค

"ข้าจะดูแลนางผู้นี้ ส่วนท่านพี่ก็ดูแลนางผู้นั้นไปก็แล้วกัน


ไม่รอฟังคำตอบใดใดจากพี่ชาย ร่างสูงผิวแทนเดินอุ้มสตรีชุดขาวหายวับไปแล้ว


ณ ปราสาทฝั่งซ้าย

ร่างบางถูกวางลงบนเตียงนุ่มอีกครั้ง ตามด้วยโครงหน้าคมที่ก้มลงจนแทบจะจูบกับดวงหน้านั้น 
"ทำไมตัวหอมนักนะ นี่คนหรือปีศาจ" ไล้มือกร้านผ่านโครงหน้าสวยของสาวเจ้าที่กำลังหลับไหลอยู่ ประกบจูบเบาๆที่ริมฝีปากบางนั่น

"รีบๆตื่นขึ้นมาละ ถ้าไม่อย่างงั้นข้าจะจูบปากของเจ้าให้เยินไปข้างนึงเลย"

"แค่ก...แค่ก" เสียงไอทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ตัวนางร้อนดังไฟเผา จนต้องรีบเรียกหานางกำนัลมาเช็ดตัวให้

.....................


ณ อีกฝั่งของปราสาทฝั่งขวา

ร่างบางค่อยๆรู้สึกตัวอย่างช้าๆ นั่งบนเตียงอย่างหมดแรง  ปีกของนางหายไปตอนนี้นางอยู่ในสภาพของมนุษย์ปกติ หากแต่ตอนนี้ต้องการน้ำมาหล่อเลี้ยงร่างกาย

"อ๊ะ..." ร่างบางตกจากเตียงสูง ค่อยๆประคองตัวเองให้ยืนขึ้น
เดินออกไปอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง พลทหารและนางรับใช้แม้จะเห็นแต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะนางคือคนของพระราชา การแตะต้องตัวนางก็เหมือนกับล่วงเกินพระราชาและ องค์ชายทั้งสอง มีโทษตัดมือ ตัดหัว แล้วแต่หนักเบา

"เราหิวน้ำ ขอน้ำให้เราที" ร่างบางในชุดสีชมพูอ่อนค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง ร่างทั้งร่างชนกับวัตถุบางอย่างพร้อมกับสายตาที่เริ่มเลือนลางคล้ายกับหมดสติ

"ใครปล่อยให้นางออกมาเดินเล่นในที่ฝึกซ้อมยิงธนูของข้าเนี่ย" ออกอาการหงุดหงิดขึ้นมาทันที เมื่อการซ้อมยิงธนูต้องชะงัก

"น..น้ำ...เรา..หิว...น้ำ" ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นก็โอบอุ้มร่างบางเข้าไปในกระโจมซึ่งบังแดดได้ดี

น้ำใสๆถูกกรอกเข้าปากบางอย่างลวกๆ

แค่ก! ร่างบางสำลักน้ำ มือเล็กปัดแก้วน้ำทองเหลืองทิ้งไป อย่างไม่ใยดี

"หึ อวดดี" ร่างสูงกระชากร่างบางให้ลุกขึ้นยืน
"ปล่อยเรานะ เอาปีกของเราคืนมาด้วย" สะบัดข้อมือเล็กให้หลุดจากการกอบกุม

"ได้ แต่ก่อนจะให้เจ้า เจ้าลองไปเป็นเป้าให้ข้าซ้อมยิงธนูก่อนซิ" ไม่รู้อะไรดลใจให้พูดไปแบบนั้นแต่เพราะร่างสูงไม่ชอบอาการอย่างหนึ่งของผู้หญิงคือ ปากกล้า อวดดี หยิ่งยโส ยิ่งดวงหน้าเชิ่ดๆตอนนี้ยิ่งอยากจับเข้ามาบดขยี้ริมฝีปากเล็กบาง ช่วงชิงลมหายใจไปให้หมด ให้ร่างบางยอมสยบดูเสียซักครั้ง

กรี้ดดดดดดดดดด!
ร่างบางเป็นลมหมดสติทันทีที่ศรธนูหยุดลง ไม่รู้ว่าลูกธนูไปหยุดจุดไหน แต่การที่ร่างบางถูกขึงเป็นเป้าแล้วมีแล้วลูกแอปเปิ้ลลูกเล็กๆวางอยู่บนหัวมันทำให้เสียวจนช็อคหมดสติ

.............


"ตื่นแล้วหรอ" ร่างสูงเอ่ยถาม
"พี่สาวข้าละ" ร่างบางสูงโปร่ง ใบหน้าสวยเชิ่ดนิ่งอย่างหยิ่งยโส ขาเรียวก้าวลงจากเตียงเดินผ่านหน้าชายหนุ่มไปอย่างไม่ใยดี
"จะไปไหน" กระชากแขนของอีกคนไว้ แล้วดึงเข้าหาตัว
"โอ้ย...ข้าเจ็บนะ เจ้าบ้า เอามือสกปรกของเจ้าออกไปนะ รู้หรือไม่ข้าเป็นใครกัน"

"แล้วเป็นใครกันละ" ปากจะเอ่ยบอกว่าเป็นเจ้าหญิงต่างแคว้นที่แอบหนีพระบิดาและพระมารดามาเที่ยวเล่นกะพี่สาวจนหลงทางก็ไม่กล้าเอ่ยออกไป

"ข้าคือพระคู่หมั้นขององค์ชายเมืองนี้" สาวเจ้ากอดอก ยกยิ้มอย่างได้ใจ จนลืมเจ็บแผลเพราะความอยากเอาชนะคนตรงหน้า

"อ่อ งั้นหรอ แล้วเป็นคู่หมั้นคนพี่หรือคนน้องละ" หญิงสาวอึกอักตอบไม่ถูก หางตาเรียวจิกคนนี่ยืนอยู่ตรงข้าม
"คนพี่ซิถามอะไรโง่ๆ ข้างามขนาดนี้ข้าต้องได้เป็นราชินีซิ" ยังคงโอ้อวดต่อไป จนลืมจับสังเกตุชายตรงหน้าที่กลั้นขำจนตัวเกร็ง

"อ่อ งั้นแล้วไป เพราะข้าคือองค์ชายคนเล็กของเมืองนี้ เดี่ยวจะไปถามท่านพี่ว่าเจ้าหรือพี่สาวเจ้ากันแน่ที่ท่านพี่จะเอาเป็นเมีย" หญิงสาวตาโตเมื่อรู้ว่าพี่สาวของตนยังอยู่ในเมืองนี้

"ข้าไปด้วย"
"No" ชายหนุ่มหันมาตวาด และเดินออกจากห้องไปอย่างไม่ใยดี

"ยัยนี่ชักจะไม่เต็มแฮะ"



.............




"จะไปไหน ในฝันเจ้าหนีข้าตลอด คราวนี้ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่ๆ" ร่างสูงเดินเข้าหาร่างบางอย่างไม่คิดหยุดฝีเท้า ไล่ต้อนร่างบางจนจนมุม ร่างบางชนเข้ากับขอบเตียงอย่างหมดหนทางหนี

"อ..อย่า" มือเรียวเล็กผลักแผงอกหนา พร้อมเบนหน้าหนี"
"บอกชื่อข้า" จมูกคมซุกไซร้ซอกคอขาวบาง กลิ่นกายหอมจนเผลอกัดฝังเขี้ยวลงไปจนคนตัวเล็กร้องเสียงหลง
"อื้อ..อ๊ะ....เราชื่อลู่หาน"  ร่างสูงยังคงมองร่างนั้นอย่างจาบจ้วง มือซนลูบไล้ไปทั่ว จนถึงเนินอกนิ่ม มือบางเลื่อนมือมาหยุดสัมผัสนั้น ปากเล็กกำลังถูกบดขยี้ซะจนบวมเจ่อไปหมด

"เรียกชื่อข้าซิ  คริส" ประกบจูบลงไปย้ำๆ ซ้ำๆ จนคนตัวบางเริ่มคล้อยตาม ชุดสีชมพูหวานหลุดลงไปกองกับพื้น รวมถึงชุดนอนสีดำของร่างสูงก็ถูกปลดออกลงไปกองที่พื้นจนหมด
มีเพียงเสียงครางหวานในยามราตรีแบบนี้ เสียงร้องขอให้หยุด แต่ดูเหมือนมันจะยากสำหรับองค์รัชทายาทเลือดร้อน


"อึก" น้ำสีขาวขุ่นพรั่งพรูเข้าไปในตัวของร่างบาง ก่อนที่ร่างสูงจะถอดกายออกมาและกกกอดร่างบางเอาไว้แนบกาย

เขามีความสุขมากจริงๆสำหรับคืนนี้ หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน

.....................

"พี่... พี่ตื่นซิ"

"เซฮุน"

"เราต้องหนีแล้ว หนีไปให้ไกลที่สุด ก่อนที่พวกเขาจะตื่น"

...............................


"บังอาจ! นี่พวกนางกล้าดียังไงถึงมาหนีไปจากข้า ออกตามหานางให้พบใครเจอนางให้จับตัวมาให้ข้า"


"อ้วกกกกก" เป็นเวลาเกือบสามเดือนที่สองพี่น้องเดินทางหนีไปยังเมืองต่างๆ เพื่อกลับไปเมืองตัวเอง เพราะต้องหนีทหาร รวมถึงคนชั่วที่ต้องการเงินรางวัลหากจับตัวพี่สาวนางได้

"พี่ลู่หาน พี่ทนหน่อยนะ" ยิ่งเห็นพี่สาวตัวเอง อ้วกแบบเอาเป็นเอาตาย อีกทั้งยังกินยาก อยู่ยากยิ่งทำให้เซฮุนเหนื่อยไปกันใหญ่

"ข้ารู้พี่รักผมของพี่ แต่ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ต้องถูกจับได้แน่ๆ" มีดเล็กถูกยกขึ้นแล้วตัดผมยาวสลวยของตัวเองออก  ตามด้วยผมของพี่สาวตัวเองจนสั้นคล้ายกับบุรุษ จับพี่สาวใส่ชุดให้เหมือนผู้ชายทั้งคู่และมุ่งหน้าเดินทางไปทางตะวันออกของเมือง


....................................




ในป่าลึกอันเงียบสงบ ต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม ป่าแห่งนี้อุดมสมบูรณ์มากเกินไป จนทำให้บรรดาสัตว์น้อยใหญ่ คืบคลานเต็มไปหมด เหมือนดังตอนนี้ มันทำให้ลู่หานไม่กล้านอน เพราะไหนจะตะขาบ ไส้เดือน กิ้งกือที่คืบคลานชอนไชพื้นดินอยู่ตอนนี้

"เซฮุนพี่หิว" ใช่เป็นธรรมดาของมนุษย์ผู้หญิงที่ตอนนี้นางไม่ได้มีเพียงแค่ตัวคนเดียว แต่นางยังทีสิ่งมีชีวิตเล็กๆอยู่ในท้องของนางด้วย
"เดี่ยวน้องไปหาอะไรมาให้กิน พี่นั่งรอตรงนี้ห้ามไปไหน" คนเป็นน้องพูดจบก็เดินไปอีกทาง มีดพกด้ามเล็กที่แอบขโมยองค์ชายคิมไคมาได้เวลาใช้ประโยชน์อีกครั้ง มือเรียวกดปลายมีดลงบนต้นไม่สลักคำเล็กๆ  'เซ' ทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ ได้ยินเสียงลำธารอยู่ตรงหน้า วิ่งไปดูอย่างดีใจมองหาวัตถุที่พอจะเอาน้ำไปให้พี่สาวของตนดื่มได้  ไม่มีเลย ไม่มีเลยจริงๆ
"อ้า..ต้นไผ่" ตัดแซะไผ่อยู่นานกว่าจะได้มาเป็นกระบอกน้ำ จัดแจงเดินหาผลไม้ที่พอกินอิ่มอยู่ท้อง

"เฮ้อ...ถ้าเรามีปีกมันคงจะสะดวกกว่านี้นะ" ถึงจะบ่นไปแบบนั้นแต่ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี


อีกฝั่งของคนรอ

'บรื้อ...เฮี้ยวว' เสียงหอบคำรามของสัตว์สี่เท้า กำลังวิ่งมุ่งหน้ามาทางนี้

"อ๊ะ...ปวดท้องอะไรแบบนี้" เหมือนเป็นสัญญาณอันตราย ทารกในครรภ์ของนางพยายามที่จะปกป้องผู้เป็นแม่ให้พ้นภัย

ร่างกายบางวิ่งไปหลบหลัง้นไม้ใหญ่ราวร้อยคนโอบ เพราะยืนไม่ระวังดินร่วนซุยยุบลงไป ทำให้นางตกลงไปไต้รากของต้นไม้ รากไม้แข็งแรงกักขังดินร่วนไม่ให้ร่วงหล่นมาโดนตัวนาง ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เป็นเหมืองอุโมงค์ซ่อนตัวเล็กๆ ให้กับหญิงสาว

กึก...กึก...กึก.......
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทุกทีๆ

"ข้าได้กลิ่นมัน...กลิ่นเลือดของกษัตริย์ตระกูลฟาร์ล" ทหารม้าที่สวมชุดเหล็กทั้งตัวกระโดดลงจากม้าเหล็ก ก้าวเดินฉับๆ หากลิ่นของอริคู่ศัตรู กลิ่นมันชัดเจนจนทำให้เดินวนไปมาบริเวณนั้น ดินร่วนร่วงลงไปจนแทบจะเห็นตัวลู่หาน หากแต่ทหารม้าเหล่านี้ไม่สามารถมองเห็นได้ ประสาทสัมผัสของมันคือการรับรู้ทางกลิ่น เพราะทหารพวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับผีดิบ พวกเขาเลือดเย็น ตัวโตมากกว่าสองเมตร และการฆ่าจะนำพาให้ทหารเหล่านี้มีชีวิตยืนยง

"ฮือ..แกร่ก" ทหารม้าอีกคนสื่อสารบอกราวกับว่าให้กลับ เพราะรับรู้ถึงสัญญาณคำสั่งของเจ้านาย

เสียงฝีเท้าของม้าเหล็กประมาณสี่ตัววิ่งผ่านเด็กสาวอีกคนไป นางแอบอยู่หลังพุ่มไม้ ใจดวงน้อยแอบหวิวกลัวพี่สาวจะเกิดอันตราย รอจนฝูงทหารม้าผ่านไปหมด นางรีบวิ่งไปยังจุดที่บอกว่าให้พี่สาวรอ 

"พี่ลู่หาน"  ว่างเปล่า ทุกอย่างว่างเปล่าไปหมด มีรอยเลือดอยู่ตรงจุดนี้

"อย่าเล่นตลกกับฉันซิ ถ้าฉันกลับเมืองของเราไปโดยไม่มีพี่พระบิดากับพระมารดาจะเป็นเช่นไร" สองขาเรียวแทบหมดกำลัง ทรุดกายนั่งลงกับพื้น หยาดน้ำตาพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวย
"ออกมานะ พี่อย่าเล่นแบบนี้ซิ เราไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ฮึก" ร้องไห้ไปจนแทบจะหมดน้ำตา ทั้งเดินหาคนเป็นพี่ในบริเวณรอบๆแต่ก็ยังไม่เจอ

"อ๊ะ....โอ้ย ไอ้ต้นไม้บ้า" โวยวายเพราะความที่เดินไม่ระวังจนล้มไป ขาเรียวทะลุร่องรากของต้นไม้

"ห๊ะ...นี่มัน..พี่ลู่หาน" เมื่อเห็นพี่สาวของตัวเองนั่งหลับอยู่แม้ใต้โพรงรากไม้จะมืดไปนิด แต่ผิวขาวๆมันทำให้มองเห็นได้ไม่ยากเลย

"พี่ลู่หาน ตื่นเร็ว ตื่นก่อนที่พวกมันจะกลับมาอีก" ลอดไปใต้โพรงรากไม้ใหญ่ ปลุกพี่สาวตนจนตื่นแล้วพาออกมานำน้ำและผลไม้ที่หามาได้ให้พี่สาวได้กิน

"ฮึก..พี่ทำฉันใจหายหมดเลยรู้รึเปล่า" คนเป็นน้องทำท่าจะร้องไห้อีกครั้ง เพราะนอกจากพ่อและแม่แล้วนางก็มีพี่สาวเพียงคนเดียวที่นางรักยิ่งกว่าชีวิต

"พี่ขอโทษ อย่าร้องไห้นะ" คนเป็นพี่โผเข้ากอดคนน้องแน่น



เดินมาเกือบสองชั่วยามก็มาพบกับหมูบ้านคนแคระเล็กๆ ซึ่งคนเหล่านี้ก็ใจดีกับพวกนางเหลือเกินให้ที่อยู่ที่หลับนอน อาหารการกินก็จัดหามาให้

กาลเวลาผ่านไปหลายเดือนเข้าสาวเจ้ากลับผมยาวอีกครั้ง ท้องนูนที่โตนั้นทำให้ร่างบางเดินเหินลำบาก

"คนสวยพักก่อนเถอะ" บรรดาคนแคระเอ่ยบอก


"โอ้ยยยย.....เราปวดท้อง เซฮุนพี่ปวดท้องเหลือเกิน" เป็นอีกวันที่หมูบ้านคนแคระต้องวุ่นวายหาเข้าหาของเผื่อช่วยเซฮุนทำคลอดให้กับพี่สาว

"เบ่งอีกนิดนะพี่ลู่หานเห็นหัวเด็กแล้ว" เม็ดเหงื่อชุ่มเต็มใบหน้าสวย ออกแรงฮึดสุดท้ายเบ่งคลอดจนสุดแรง

"กรี้ดดดดดดดดดดดด" สิ้นเสียงสุดทรมานของลู่หาน ตามด้วยเสียงทารกตัวน้อยที่น่าเกลียดน่าชังจนอยากจะฟัดกอดรัดให้จมไปในอ้อมแขน

"พี่ลู่หาน พี่ได้ลูกผู้ชาย น่ารักมากๆเลย" คนเป็นแม่เอื้อมมือเพื่อขอสัมผัสลูกซักครั้ง

"ตั้งชื่อว่าอะไรดีน๊า" เซฮุนเอ่ยถาม

"ฟาร์ฮาร์ล" อุ้มลูกไว้ในอ้อมอกก่อนจะระบายยิ้มออกมา เด็กคนนี้ไม่มีแม้แต่เค้าหน้าของลู่หานเลย เค้าหน้าเหมือนเจ้าชายอี้ฝานถอดแบบกันมาไม่มีผิดเพี้ยน จะมีก็แต่ผิวขาวเนียนละเอียดที่ได้จากแม่ไปเต็มๆ



วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เด็กน้อยห้าขวบที่ตัวสูงกว่าคนแคระเล็กน้อยกำลังเล่นในกลุ่มคนแคระ โดยมีหญิงสาวสองนางนั่งมองห่างๆ


"พี่ลู่หาน ถ้ากลับเมืองของเราพี่จะบอกท่านพ่อกับท่านแม่ว่าอย่างไรกับลูกของพี่" ลู่หานระบายยิ้มอย่างมีความสุข จับมือน้องสาวมากุมเอาไว้
"บอกความจริงไงล่ะ"

"แล้วพ่อของลูกพี่ล่ะ"


กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดด  เสียงกรี้ดร้องดังขึ้น มีทหารม้ากลุ่มใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ พวกมันจะฆ่าเรา หนีเร็ว ทุกคนหนีเร็ว

สองพี่น้องรีบวิ่งไปหาเด็กน้อยพร้อมกับเข้าไปในบ้านหยิบเอาข้าวของที่จำเป็นใส่ห่อผ้า ก่อนที่จะพากันหนี

ลู่หานอุ้มลูกชายพร้อมกับวิ่งไปข้างหน้าอย่างลำบาก

วิ่งมาได้ไม่ไกลทหารม้าก็ตามมาจนทัน ในวงล้อมที่มีเพียงหญิงสาวกับเด็กน้อยตาดำๆ ปลายดาบคมจอไปที่บุคคลทั้งสาม

"แม่ครับผมกลัว" เด็กน้อยร้องไห้พร้อมกับโอบเอวคนเป็นแม่เอาไว้ ทันใดนั้นเองทหารม้ายกคมดาบพร้อมฟาดฟันมันลงไป คนเป็นแม่และน้า ยอมใช้ร่างกายบอบบางปกป้องกำบังเพื่อที่จะรับคมดาบแทน หากแต่ดาบนั้นร่วงหล่นลงพื้นแทบจะทันที ศรธนูปักตรงกลางหัวของทหารม้าตายไปสามคน

"รังแกคนไม่มีทางสู้ น่าตัวเมียจริงเล้ย" องค์ชายคิมไคยิ้มเยาะทหารม้าเหล่านั้น พร้อมกับทำท่าเชื้อเชิญเพื่อเบนความสนใจหลอกล่อทหารม้าผู้มีสมองอันน้อยนิดให้สนใจตน

"อ๊ะ....พี่ลู่หานพาฟาร์ฮาร์ลหนีไป" คอเล็กของหญิงสาวอยู่ในมือของทหารม้าคนหนึ่ง  ใจหนึ่งก็อยากช่วยน้องสาวแต่อีกใจก็ต้องปกป้องลูก แต่ดวงตาของเซฮุนกลับบอกลู่หานว่าไม่เป็นรัย หนีไปให้ไกลที่สุด

"ถุย ทุเรศว่ะจับผู้หญิงมาต่อรอง" ความจริงองค์ชายคิมไครู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร และการที่นางตกอยู่ในสภาพนั้น มันแทบทำให้เขาเสียสติ อยากจะเอาดาบคู่กายฟันร่างนั้นให้ขาดเป็นสองท่อน

ยกคันธนูจ่อไปกลางหัวของศัตรู ส่วนมือของศัตรก็ยิ่งบีบรัดแน่นขึ้น
"ปล่อยนาง ไม่งั้นตัวแกขาดเป็นสองท่อนแน่" ไม่ทำตามแถมยังเย้ยหยันอีก
"อ้าว..ไอ้นี่วอนซะละ"

'ปัก' คันธนูปักกลางหัวจากทางด้านหลัง เหตุการณ์ชุลมุมจึงเกิดขึ้น  ลู่หานรีบอุ้มลูกหนีไปจากตรงนั้น และม้าเร็วที่คิมไคขี่วิ่งตรงมา ยกดาบคู่กายฟันทหารม้านับสิบขาดเป็นสองท่อนสมกับคำขู่

เอนตัวพร้อมช้อนร่างบอบบางขึ้นมานั่งบนหลังม้ากับตัวเอง
นางสลบไปแล้ว แต่คิมไคยังคงสู้กับทหารผีดิบจนชนะขาด เพราะดาบนี้ดาบที่ใช้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ผีดิบของตระกูล



............

ไวยิ่งกว่านินจา เสียงฝีท้าวที่ก้าวฉับๆ เข้ามาทางด้านหลังของลู่หานและลูกที่ยืนแอบอยู่ มือหนาใหญ่กว่าใบหน้าปิดปากสวยเอาไว้ พร้อมกดตัวให้ย่อลงต่ำ

"กลั้นหายใจถ้ายังไม่อยากตาย "  หมอบให้ต่ำ และกลั้นหายใจจนกว่าพวกทหารผีดิบพวกนี้จะเดินผ่านพ้นไป


"แฮ่ก......แค่กๆ" ไอออกมาเมื่อเหตุการณ์เลวร้ายผ่านไปด้วยดี

"ขอบคุณที่ช่วยข้าและลูก บุญคุณนี้ข้าจะไม่ลืม"

"หึ" ร่างสูงหัวเราะ

"เปิดผ้าออกได้ไหม ผ้าที่ปิดดวงหน้าของท่าน"

"ไว้ให้น้องข้าพาน้องสาวของเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก่อนเจ้าจะได้เห็นหน้าข้าแน่นอน"

สายตาคมจ้องไปยังเด็กน้อยที่กำลังหลับไหล

"พ่อของเด็กล่ะ"

"ไม่มี"

"ไม่มีพ่อละเด็กจะเกิดมาได้ยังไง อย่าบอกนะว่าเจ้าท้องกับกระบอกไม้ไผ่"

"ฮึก...เราทิ้งเขามาเอง แต่เขาไม่แม้แต่จะตามหาข้ากับลูกเลย"

"รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ตามหาเจ้า แล้วทำไมเจ้าต้องหนีเขามาละ"

"ข้ากลัว...เขารังเกียจข้ากับน้อง ข้ากับน้องเหมือนตัวประหลาด"

"ไม่จริง เขาอาจไม่ได้มองเจ้าแบบนั้นก็ได้นะ"

"ฮึก...พอเถอะข้าอยากพักผ่อนแล้ว" ทันทีที่พูดจบร่างบางก็นอนตะแคงกายโอบกอดลูกน้อยเอาไว้แน่นจนหลับไปในที่สุด

"ลูกข้าซินะ" มือหนาลูบแก้มนิ่มของเด็กน้อยก่อนจะนอนลงข้างๆในกระโจมเล็กๆ



พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้ เพราะตอนนี้เหล่าศัตรูกำลังยกพลตามล่าเลือดกษัตริย์นามฟาร์ฮาร์ลกันให้พลิกแผ่นดิน



..............




"เซฮุน" คนเป็นพี่วิ่งเข้าไปประคองร่างของน้องสาว มือเรียวอังใบหน้าสวยเพื่อวัดอุณหภูมิในร่างกาย

"อื้อ" เมื่อผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดลงบนผิวนุ่มทำให้คนที่หลับไม่ได้สติครางอือ

"ท่านแม่ ท่านน้าจะเป็นอะไรรึเปล่า" กายเล็กของเด็กชายนั่งลงข้างๆมือป้อมๆเอื้อมไปจับฝ่ามือบางของน้าสาว แววตาดูห่วงใย

"ท่านน้าหายไวไวนะ รีบๆตื่นมาเล่นกะฟาร์ฮาร์ลนะ"  เพียงคำพูดที่เอื้อนเอ่ยออกมาเหมือนวาจาสิทธิ์ กายบางค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ


รุ่งอรุณเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

"เฟี้ยวว" นกเหยี่ยวสีดำทมิฬร่อนลงมาตรงหน้าองค์ชายทั้งสอง ลำแขนแกร่งยกขึ้นรับกรงเล็บแข็งแรงของเหยี่ยว ที่มันใช้เกาะแทนกิ่งไม้ ดึงตราสารออกมาอ่านและปล่อยเหยี่ยวไป


"ทหารของเราเดินทางมาใกล้ถึงแล้ว" องค์ชายอี้ฝานเอ่ย
"แล้วเราจะเอายังไงต่อ กลับเมืองรึ ข้ายังไม่ได้ท่องเที่ยวเคล้านารีอย่างที่ฝันเลย"  องค์ชายคิมไคเอ่ย

"ข้าก็ด้วย ข้าอยากไปเที่ยวตามอาณาจักรเมืองต่างๆ" ยิ้มอย่างมีเล่ห์ปลดผ้าสีดำที่ปิดดวงหน้าออก เผยให้เห็นโครงหน้าหล่อเหลา

"เจ้าก็ควรถอดมันออกซะคิมไค" ว่าจบก็เดินตรงไปกระโจมใกล้ๆ ที่มีหญิงสาวสองคนและเด็กน้อยอยู่ในนั้น


"อ๊ะ....ท่าน" เด็กน้อยที่เดินออกมาเล่นข้างนอกตาโตเมื่อเห็นคนแปลกหน้า มือใหญ่ปิดปากเด็กน้อยไว้ 

"ชู่ว์ ... อย่าเอ็ดไป"  เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงักเชิงเข้าใจ องค์ชายอี้ฝานจึงปล่อยมือออก อุ้มเด็กน้อยขึ้นมานั่งตักอย่างเอ็นดู
เหมือน  ช่างเหมือนเขาเหลือเกินเด็กคนนี้

"ท่านคือคนที่ช่วยเรากับท่านแม่ใช่มั้ย" แทบไม่เชื่อหูตัวเอง เด็กน้อยราวห้าขวบพูดจาเจื้อยแจ้ว แถมยังรู้ความเกินวัยขนาดนี้เลยหรือ
"ใช่ ข้าเอง" เด็กน้อยยิ้มในคำตอบ

"ท่านว่าท่านแม่ข้าสวยมั้ย" เด็กน้อยเอ่ยถาม
"ทำไมเจ้าถึงถามแบบนี้ล่ะ" เด็กน้อยยิ้มในคำถามอีกครั้งและเอ่ย
"ข้าเห็นท่านแอบมองท่านแม่ ทุกเวลา ที่ท่านแม่ยิ้ม และร้องไห้"

ช่างรู้ความมากเสียกระไร มือใหญ่ยีกลุ่มผมนิ่มของเด็กน้อยหัวกลมๆนั้น แล้วอุ้มเดินไปยังกระโจม

ตอนนี้ลู่หานกำลังหลับ และข้างๆคือน้องสาวนาง

"ใช่แม่ของเจ้าสวยมาก แม้กระทั่งตอนหลับ" วางเด็กลงพร้อมกระซิบบอกให้เด็กน้อยไปปลุกคนเป็นแม่เพื่อออกเดินทาง

"ท่านแม่ตื่นเร็วเข้า" คนเป็นแม่งัวเงียขึ้นมา ดวงตาพร่ามัวมองเห็นใบหน้าคุ้นตาลางๆ ยกมือขยี้ดวงตาเบาๆ เบิกตากว้างเมื่อใบหน้าของคนตรงหน้าชัดขึ้น

"ท่าน" ร่างบางกอดลูกน้อยพร้อมกระถดกายหนี อาการไม่ต่างจากการร่วมรักครั้งแรกกับคนตรงหน้าเลย ปากน้อยที่เผยออ้าเล็กน้อยมันเชิญชวนให้องค์ชายอี้ฝานประกบริมฝีปากลงไปเบาๆ กดหัวลูกชายลงบนอกนิ่มของลู่หานแล้วจูบย้ำๆซ้ำๆ โดยไม่มีการรุกล้ำใดใด ถอนริมฝีปากออกและปล่อยทั้งคู่ให้เป็นอิสระ

ปากเล็กเล็กดูเอิบอิ่มขึ้นมาทันที  เผลอมองค้อนคนที่ทำอะไรไม่รู้จักระวัง ทั้งที่รู้ว่าลูกอาจจะเห็นแต่ก็ยังทำ เจ็บใจนัก

"พี่ลู่หาน เกิดอะไรขึ้นบ้าง นี่ข้าหลับไปนานแค่ไหนแล้ว" คนเป็นน้องตื่นขึ้นมาจากหลับไหล ไม่ทันได้เห็นภาพนั้น แต่เมื่อหันไปเจอคนตรงหน้าก็ต้องตกใจ นี่เราหนีท่านมาตั้งไกลทำไมท่านยังตามหาพวกเราจนเจอเพราะอะไรกัน เซฮุนยังคงงุนงง

"ไปล้างหน้าล้างตาซะ อีกไม่นานทหารของข้าจะมาถึงที่นี่ เราจะออกเดินทางกัน" พูดเสียงเข้ม ด้วยแววตาดุดันจนหญิงสาวกลัว

"เดินทาง" พูดเป็นเสียงเดียวกันแม้จะงงกะคำพูดขององค์ชาย แต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย



เพียงไม่นานทหารองค์รักษ์ชุดหนึ่งก็เดินทางมาถึง หัวหน้าองค์รักษ์หาเป็นชายไม่ นางคือสตรี และเป็นสตรีที่แอบหลงรักองค์ชายอี้ฝานมานาน

"ไหนว่าองค์รักษ์ชานยอลจะเดินทางมาคนเดียวไงทำไมถึงมีองค์รักษ์ฮเยมีตามมาด้วย บ้าจริง" องค์ชายคิมไคหัวเสียเมื่อเห็นว่าแผนจะทำให้พี่ชายและพี่สะใภ้ลงรอยกันคงยากขึ้นกว่าเดิม

"ไอ้ชานยอล ไหนเจ้าบอกจะพาแค่องค์รักษ์ฝั่งข้ามาไง แล้วทำไมเจ้าพานางมาด้วย" ชานยอลก้มหน้ารับชะตากรรม ใครจะห้ามนางได้ เพราะนางอยากตามองค์ชายอี้ฝานมาใจแทบขาดแต่ถูกสั่งห้าม คราวนี้ได้โอกาสนางจึงรีบคว้าไว้

"เดินระวังๆหน่อยนะลูก" เอ่ยบอกลูกน้อยที่เดินจูงมือออกมากับองค์ชายตัวสูง และตัวเองก็เดินตามหลังมาติดๆ ตามด้วยน้องสาวของนาง

"พระองค์สบายดีมั้ย" ฮเยมีวิ่งไปหาองค์ชายอี้ฝานทันทีที่เห็น แต่อี้ฝานไม่แม้แต่จะสนใจเขาพยายามที่จะทำให้ลู่หานเห็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขายังไม่เคยเปลี่ยนใจเลย ใบหน้านิ่งเอ่ยเสียงเรียบ พร้อมโอบอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด

"ข้าสบายดี"

เดินไปตรงกลุ่มทหารองค์รักษ์ราวสี่สิบคนพร้อมเอ่ยสั่งถึงการที่ตนจะเดินทางไปพักผ่อน พร้อมเอ่ยสั่งตามเดิมให้ปรนนิบัติลู่หาน เซฮุน และฟาร์ฮาร์ลให้เหมือนกับปรนนิบัติตนและน้องชาย

ม้าทรงเตรียมพร้อมไว้ส่ีตัว สำหรับ อี้ฝาน คิมไค ลู่หาน และเซฮุน ทุกคนขึ้นขี่ม้ากันหมด มีเพียงลู่หานที่ยืนนิ่ง เด็กน้อยที่นั่งประจำอยู่บนหลังม้ากับอี้ฝานเอ่ย
"ท่านแม่ขึ้นมาเร็ว ข้าอยากไปแล้ว" หากแต่แววตาของลู่หานนั้นมีความเป็นกังวล ขาเรียวกำลังจะก้าวขึ้นม้า แต่เสียงหวานเอ่ยขัดซะก่อน

"ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย" ฮเยมีเอ่ย  หากแต่เซฮุนได้ยินสิ่งนั้น นางหันไปจ้องทหารองค์รักษ์สาว

"พี่ข้าขี่ม้าไม่เป็น นางเคยตกม้าเมื่อตอนที่พระครูเคยสอนเราขี่ม้า เจ้านี่พูดจาอะไรหัดคิดไตร่ตรองดูซะบ้างนะฮเยมี" พูดจบเซฮุนก็ลงจากหลังม้า เดินไปหาพี่สาวพร้อมดึงมือมาเพื่อจะไปนั่งม้าตัวเดียวกับตน

"มาขี่ตัวเดียวกับข้า ม้าของเซฮุนตัวเล็กไปรองรับน้ำหนักมากกว่าสองคนไม่ได้หรอก" อี้ฝานเอ่ย พร้อมบอกให้ฟาร์ฮาร์ลไปนั่งม้ากับคิมไค เด็กน้อยไม่ขัดแต่อย่างไรยอมทำตามแต่โดยดี

ฝ่ามือหนาเอื้อมรับหญิงสาวพร้อมฉุดดึงขึ้นมานั่งบนหลังม้า เพราะความที่ม้าไม่นิ่งพอแก้มใสใสชนกับปากอิ่มขององค์ชาย ดวงหน้าขาวเผยให้เห็นริ้วสีจางๆจากความเขินอาย

"ออกเดินทางได้" เมื่อทุกคนพร้อมชายยอลหัวหน้าองค์รักษ์ซึ่งเป็นใหญ่กว่าฮเยมีออกคำสั่ง

หากเปรียบเทียบคงเป็นขบวนเสด็จที่ต้องการพักผ่อนตามอัธยาศัยขององค์ชายที้งสอง โดยมีหญิงงามถึงสองคนร่วมเดินทางไปด้วย



การเดินทางผ่านป่าดงพงไพรมากมายมาร่วมหลายวัน มีการหยุดพักเป็นระยะๆ ช่วงเวลาที่ทำให้ทั้งอี้ฝานและลู่หานได้อยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ฟาร์ฮาร์ลเริ่มสนิทกับผู้คนมากขึ้น แต่เห็นทีจะสนิทกับองค์ชายคิมไคได้เป็นอย่างดีเพราะคอยกันท่าให้อี้ฝานได้อยู่กับลู่หานบ่อยๆจนฟาร์ฮาร์ลแทบจะหลงพ่อหลงแม่เรียกน้าสาวและน้าชายว่าท่านพ่อท่านแม่แทนอยู่แล้ว


ขบวนเสด็จออกเดินทางอีกครั้งมุ่งหน้าไปยังที่พักส่วนตัวของสองกษัตริย์ที่ชอบออกไปพักผ่อนกัน หากแต่จู่ๆ ขบวนเสร็จก็ถูกจู่โจม ทหารม้าผีดิบปรากฏตัวอีกครั้ง มันเอ่ยก้องว่าต้องการตัวจอมกษัตริย์ที่นั่งม้ากับองค์ชายคิมไค ด้ามดาบชี้มาตรงหน้าเด็กหากแต่เด็กน้อยหากลัวไม่จ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว เงยมองหน้าน้าชายพร้อมจับเชือกไว้แน่น

"ข้าไม่กลัว ท่านน้าสู้กับมันเลย" เด็กน้อยเอ่ย คิมไคยกยิ้มยกคันธนูเล็งทีเดียวด้วยธนูสามดอกและ 'ปัก' เข้ากลางหัวของทหารผีดิบทั้งสาม เซฮุนเห็นอย่างนั้นจึงช่วยอีกแรง ถึงนางจะดูบอบบางแต่นางเรียนรู้วิชาเหล่านี้มาบ้าง หยิบคุนธนูจากทหารองค์รักษ์ยิงปักกลางลำตัวของมัน เผลอหันไปยิ้มให้กันและกันอย่างไม่รู้ตัว
ทั้งสองฝั่งสู้กันอย่างดุเดือด ชานยอลเห็นว่าทางสะดวก เอ่ยบอกให้องค์ชายทั้งสองหนีไปก่อน เพราะสิ่งที่ทหารผีดิบต้องการมันคือตัวลู่หานและฟาร์ฮาร์ล หากทำลายสองคนนี้ไปได้ก็เหมือนทำลายองค์ชายรัชทายาทได้ด้วยเหมือนกัน

อี้ฝานเลี้ยวม้าไปอีกทาง คิมไคและเซฮุนก็ตามไป

ชานยอลหันกลับมาเผชิญหน้ากับทหารผีดิบอีกครั้ง หากบุญข้ายังพอมีข้าจะกลับไปรับใช้พวกท่านอีกครั้ง แต่หากข้าต้องสละชีวิตทิ้งเสียที่นี่ข้าก็ไม่เสียดาย

ฮเยมีเองก็คงคิดเช่นนั้นนางสู้ทุกอย่างเพื่อดันตัวเองมาให้ได้เข้าใกล้อี้ฝาน แต่ยิ่งใกล้ก็เหมือนยิ่งห่าง ตั้งแต่คืนนั้นที่มีอี้ฝานเจอลู่หานนางก็เผื่อใจไว้แล้ว หากนางตายขอให้ตายในอ้อมอกของพระราชาอี้ฝาน

เสียงคมดาบฟาดฟันจนผู้คนล้มตายเป็นเบือ เหลือเพียงสององค์รักษ์ที่เจ็บเจียนตาย แต่ชานยอลคงเจ็บไม่เท่าฮเยมีรอยดาบที่ฟาดฟันลงบนตัวนางนับสิบแผลทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุด

"ฮเยมี อดทนไว้นะเจ้าต้องหาย ข้าจะพาเจ้าไปหาองค์ชายท่านจะช่วยเจ้าได้" ว่าจบก็พาขึ้นหลังม้าไป ม้าถูกควบไวราวกับรถเหล็ก เพียงไม่นานก็ตามลำแสงสีฟ้าอ่อนทัน

"ข้าไม่ไหวแล้วชานยอล" ใบหน้าสวยเอ่ยบอก

"องค์ชายอยู่ข้างหน้าเจ้าแล้ว ทนอีกนิดเถอะ"


เสียงฝีเท้าม้าหยุดลง ทหารกล้าลงจากหลังม้า ด้วยสภาพเจียนตาย

"พวกเจ้า....ฮเยมีสหายข้า" อี้ฝานเอ่ย มือเรียวไม่ลังเลที่จะหยิบยาวิเศษที่มีติดตัวไว้ตั้งแต่เด็กออกมา
"อย่า...ท่านต้องใช้มันแต่ไม่ใช่กับข้า" ฮเยมีเอ่ยมือเรียวเอื้อมไปหยุดมือนั้น
"ปล่อยให้ข้าตายแล้วเก็บยานี้ไว้ใช้กับคนที่ท่านเห็นว่าสมควร" อี้ฝานนั่งลงประคองร่างนั้นไว้แบนอก ลมหายใจนางค่อยๆผ่อนเบาลงๆจนหยุดไปในที่สุด

"นางได้ทำหน้าที่นางอย่างเต็มที่แล้ว ฝากเจ้าดูแลต่อด้วยชานยอลจัดพิธีให้นางอย่างสมเกียตริ"
พวกข้าจะเดินทางพาพวกนางไปยังที่ปลอดภัยเอง แล้วเจ้ากับแบคฮยอนค่อยติดตามข้าไปทีหลัง




............♡♡♡♡♡...........



ณ กระท่อมกลางป่าลึก ดินแดนอันไกลโพ้นจากเมืองที่จากมา ไร้ผู้คนอาศัย มีเพียงคนห้าคนอาศัยอยู่ที่นี่ คิมไคปรึกษากับพี่ชายอยู่นานว่าจะทำยังไงให้ลู่หานเข้าใจอี้ฝาน
"ท่านคิมไค" เด็กน้อยเอื้อนเอ่ยเดินจับมือมากับน้าสาว คิมไคอ้าแขนรับเด็กน้อยพร้อมอุ้มไปนั่งตัก
"เซฮุนพาไปไหนมาบอกหน่อยซิ" พูดพร้อมเงยหน้ามองหญิงสาวซึ่งตอนนี้เป็นคนรักของตนไปเรียบร้อยแล้ว
"พาไปเดินเล่น แต่ตอนนี้ฟาร์ฮาร์ลง่วงแล้วแต่วันนี้ขอนอนกับท่านแม่ได้มั้ย" เด็กน้อยเอ่ย แต่เซฮุนรีบขัด
"นอนกับน้าดีกว่านะ ท่านแม่คงเหนื่อยน่าดูเลยวันนี้" อุ้มหลานรักแนบอกพร้อมฉุดดึงองค์ชายคนเล็กให้ลุกขึ้น พร้อมเดินเข้าไปในกระท่อมไม้เล็กๆอีกหลัง


ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เซฮุนกลับมาแล้วหรอ" เปิดประตูออกไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครอยู่ข้างนอก
"ท่าน" ร่างบางพยายามที่จะปิดประตูแต่ดูเหมือนแรงที่มีจะน้อยไปคนตัวโตผลักบานประตูพร้อมเดินเข้าหาคนตัวบาง ปิดประตูและล็อคมัน

"ออกไปนะ" คนตัวเล็กเอ่ยเสียงเรียบ อี้ฝานไม่ฟังคำใดใด อุ้มหญิงสาวพาดบ่าด้วยมือเพียงข้างเดียว ความสูงของเขามันทำให้หญิงสาวที่กำลังดิ้นหยุดลงเพราะกลัวตก

"อ๊ะ.." ร่างทั้งร่างถูกเควี้ยงลงเตียง มือหนาถอดเสื้อผ้าส่วนบนออก เผยให้เห็นแผงอกแข็งแรงของคนชอบออกกำลังกาย
"จะทำอะไร" คนตัวบางหน้าซีด
"ข้าคงไม่ซักผ้าหรอกมั้ง ข้าต้องการเจ้าสาวน้อย" นั่งลงบนเตียง ยิ่งคลานเข้าหาหญิงสาวก็ยิ่งกระถดกายถอยห่าง

"อ๊ะ..อย่า" ข้อเท้าเล็กถูกจับหมับ ลากเข้าประชิดตัวอี้ฝาน
"เจ้าไม่คิดถึงร่างกายนี้เลยหรอ ร่างกายของข้า คืนวันนั้นเจ้าได้สัมผัสมัน" ลู่หานหันหน้าหนีแอบฝืนกลืนน้ำลายลงคอมือบางดันแฝงอกแกร่งไว้ ดวงหน้าขาวเริ่มร้อนขึ้นมาทุกขณะ

เจ้าของร่างสูงแทรกกายเข้าไประหว่างกายเล็กยกขาเรียวบางชันขึ้น ลูบสัมผัสมันเบาๆ ลงไปเรื่อยๆ มืออีกข้างปัดเส้นผมยาวชวนให้เคลิบเคลิ้น

"อึก" หญิงสาวกระถดกายหนีเมื่อนิ้วกร้านแข็งพยายามจะสอดเข้าไปในตัว แต่หนีไม่ได้มือหนาละจากขาเรียวล็อคคอเล็กพร้อมประกบจูบหนักหน่วงเข้าไป เม้มริมฝีปากบนลู่หานก็หันหนีเม้นริมฝีปากล่างใบหน้าสวยก็พยายามบ่ายเบี่ยง
"หึ อ่อนโยนกับเจ้าคงใช้ไม่ได้ผลซินะลู่หาน" สองมือจับเอวบางแน่น ลากลงให้นอนราบ ท่อนขาแกร่งกดทับเรียวขาเล็กทั้งสองข้าง ทาบทับตัวลงไปสองมือประคองใบหน้าเล็กไว้แน่น จูบหนักๆพร้อมบีบคางเรียวให้อ้าปากรับลิ้นหนา
"อือ..." มือบางขูดแผ่นหลังกว้างจนเป็นรอยดังหมดหนทางหนี เพียงแค่ลิ้นร้อนสอดเข้าไปเกี่ยวกันพัลวันกายบางก็อ่อนยวบลง เรียวขาที่เคยมีแรงหดหายไปหมด
ลิ้นร้อนพันเกี่ยวสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ดั่งถ่านไฟเก่าที่กำลังลุกโชน
นิ้วยาวกร้านสอดเข้าไปในช่องทางรักช่วงจังหวะที่ลู่หานคล้อยตาม

"อ๊ะ...อ...อี้ฝาน" เมื่อนิ้วยาวเริ่มขยับและเพิ่มจำนวนเข้าไปถึงสองนิ้ว ทำให้แรงที่มีหมดสิ้น ร้องครางเสียวอย่างห้ามไม่ได้ มือหนาค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออกแต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจสาวเจ้า ลุกขึ้นมาประกบจูบพร้อมนั่งบนหน้าตักของอี้ฝาน มือบางปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกเองจนหมดสิ้น

คลอเคลียกันอยู่นานจนไม่รู้ว่าเสื้อผ้าหลุดออกไปหมดตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อี้ฝานสอดใส่แกนกายเข้ามาในตัวของตัวเอง

"อึก" มือบางจิกลงบนผ้าปูเตียง ยามที่อี้ฝานเริ่มขยับ มือบางปัดป่ายอากาศไปมาเพราะความเสียวซ่าน
"จับตัวพี่ซิ เจ้ายังรังเกียจผัวคนนี้อีกหรือ" เห็นถ้าอีกคนที่ไม่ยอมเลยกระแทกกายรัวเร็วจนมือเล็กยอมกอดร่างกายหนาไว้
"รู้สึกดีมั้ย" ขยับแกนกายเบาๆอย่างเนิบนาบ ก้มดูดเม้มผิวขาวเนียนอย่างหื่นกระหาย เม้มใบหูขาวพร้อมกระซิบถามอย่างที่ชอบทำ
ไม่มีคำตอบมีเพียงเสียงครางไม่หยุด ใบหน้าสวยพยักหน้าน้อยๆ อย่างรู้สึกดี ยิ้มน้อยๆพร้อมยกสองแขนกดใบหน้าหล่อลงมาจูมพิตอีกครั้ง

"อ่าส์ข้ารู้สึกดีเหลือเกิน" แน่นอนละ หลังจากคลอดฟาร์ฮาร์ลมาลู่หานยังไม่เคยผ่านการใช้งานใดใดมาเลย แรงตอดรัดบีบรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ
"ข้าจะดันมันเข้าไปให้สุด เจ็บหน่อยนะ" ค่อยๆขยับเข้าออกเบาๆก่อนจะกระแทกแรงเข้าไปจนสุด หน้าท้องแบนราบแข็งแกร็งเพราะท่อนเนื้อที่ฝังเข้าไปในกาย
ใบหน้าสวยพยักหน้า ครางอือไม่ได้ศัพท์
"เร็วๆเถอะข้าไม่ไหวแล้ว" สิ้นประโยคอี้ฝานกระแทกแกนกายเข้าออกไม่ยั้งและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ ของเหลวสีขาวของลู่หานช่วยหล่อลื่นได้เป็นอย่างดี ตอนนี้หญิงสาวเหมือนเป็นตุ๊กตาให้อีกคนเล่น นับพลิก จับตะแคงกาย กระแทกกระทั้นรัวเร็วโดยไม่คิดหยุด

"อื้อ...Stop it."" หญิงสาวในท่าคลานที่ตัวยังเชื่อมติดกันอยู่เอ่ยขอ มือบางเอื้อมไปหยุดสะโพกหนาที่ทำหน้าที่ดีให้หยุดลงก่อนจะขยับสะโพกตัวเองเบาๆ เพราะเจ็บและเสียวซ่านจนแทบหมดลมหายใจ หากปล่อยให้อี้ฝานกระทำฝ่ายเดียวลู่หานคงต้องตายแน่ๆ
"อื้อ..ขี้โกง" หญิงสาวพูดออกมา เมื่อคนด้านหลังเริ่มขยับรุนแรงอีกครั้ง ใบหน้าสวนฟุบลงไปกับหนอนอย่างหมดแรง ทำได้เพียงปรือตาหอบครางเสียวยามถูกสอดใส่เข้ามา

"อึก ...อืม...ลู่หาน" ใบหน้าหล่อเชิ่ดขึ้น สูดลมเข้ายามรู้สึกเสียวซ่าน ซี้ดปากกัดปากล่างอย่างเซ็กซี่

"ผับ...ผับ.."  เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วห้องเร่งจังหวะรัวเร็วจนคนข้างล่างแทบขาดใจ

"อื้อ..อี้ฝาน...เร็วอีก..ระ..เราไม่ไหวแล้ว." เร็วถึงใจลู่หานเลยที่เดียวแกนกายขนาดใหญ่ยักษ์กระทั้นรัวเร็ว สองมือประคองสะโพกบางสอดใส่เข้าไปเต็มแรง
"อ่าส์ .....ที่รักของข้า" ทิ้งสะโพกเต็มแรงและหยุดลงให้น้ำในกายไหลเข้าไปในกายบางจนหมด แช่ไว้แบบนั้นอยู่นานก่อนจะถอนออก ของเหลวสีขาวขุ่นบางส่วนไหลออกมาตามท่อนเนื้อยาวที่ถอนออกมา
ร่างบางนอนเหนื่อยหอบ ปรือตาอย่างหมดแรง
หากแต่นี่เป็นเพียงรอบแรกเท่านั้น ความต้องการของอี้ฝานยังไม่หมดลง

"เจ็บมากมั้ย หื้ม" กระซิบถามอย่างอ่อนโยน ลู่หานปรือตามองใบหน้าคมอย่างยั่วโยน ใบหน้าสวยสุดยั่วยวนและเซ็กซี่ทำให้เลือดมังกรหนุ่มมันพลุ่งพลานอีกครั้ง
"อีกรอบนะคนดี" มือหนาลูบหัวเล็กอย่างเบามือ
"อื้อ..ไม่ละ" คนตัวเล็กพลิกกายหนี
"แค่นอนนิ่งๆ ทุกอย่างข้าจัดการเอง" ยังไม่เลิกเอสเปรียบคนตัวเล็ก  ลู่หานเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆถ้ายืนหัวเล็กๆก็พอดีกับหน้าอกพอดิบพอดี ถ้าอยู่แนวีะนาบแบบนี้ ตัวเล็กบางซะจนไม่คิดว่าจะทนร่างสูงได้ร่วมชั่วโมง

"ไม่เอา..อี้ฝานเรา...อึก" หญิงสาวเบิกตาโตเมื่อแกนกายถูกสอดใสเข้าไปทีเดียวจนสุด
"บอกมาซิว่าไม่ต้องการมัน" เริ่มขยับแกนกายเข้าออก ยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นคนตัวบางเนื้อตัวสั่นเทาเพราะความเสียวซ่าน

"อ๊ะ...

"ให้ข้าหยุดมั้ยคนดี.. หื้ม" ก้มสูดดมความหอมจากผิวกายเล็ก เอ่ยถามเสียงสั่น

คนตัวบางส่ายหน้าเล็กน้อย "งั้นช่วยข้าหน่อยซิ" ยกคนตัวบางขึ้น แล้วทิ้งตัวนอนราบไปกับเตียง
"ขยับซิ" ลู่หานหน้าแดงเมื่อได้ยินคำสั่ง หากแต่ตัวเขาเองก็ต้องการ เริ่มขยับสะโพกร่อนกายบางอย่างเซ็กซี่บนตัวอี้ฝาน

"เหนื่อยแล้วอ่ะ....เอาเปรียบกันจริงๆ" ก้มใบหน้าสวยลงไปแลกลิ้นกะคนที่นอนเคลิ้มอยู่
"ไม่ทำแล้ว..เหนื่อย" ร่างบางขยับตัวทำท่าจะลุกหนี แกนกายหลุดออกมาครึ่งหนึ่ง
เหมือนแรงที่หายไปกลับมาหมดจับเอวบางกระแทกแกนกายเข้าไปใหม่ กดร่างบางให้นอนราบขยับซอยถี่รัวจนคนตัวบางครางไม่หยุด เผลอยกสะโพกบางสวนแรงกระทั้นอย่างไม่รู้ตัว
"อ๊า....ตรงนั้นอี้ฝาน" มือบางลูบไล้แผ่นหลังอย่างลืมตัว เผยอปากบางเรียกร้องให้คนบนร่างสอดใสเข้าไปไม่หยุด

"ลู่หาน...อย่ารัดข้าแบบนั้นซิ..ม..มันจะแตกอยู่ละ" ว่าจบก็กระทั้นแกนกายรัวเร็วและแรงสุดจังหวะสุดท้ายรีบถอดแกนกายออกมา
ร่างบางดันตัวเองขึ้นอย่างรู้งาน ริมฝีปากอุ่นเล็กอ้ารับแกนกายพร้อมขยับเข้าออก ไล่เลียแกนกายนั้นอย่างชำนาญ มือหนาขยุ้มเส้นผมหยิกยาวนั้นด้วยความเสียวซ่าน

"อื้อ."
"อ่าส์" ในที่สุดลู่หานก็ทำให้องค์รัชทายาทถึงฝั่งฝันได้อีกครั้ง
สองร่างกอดรัดกัดแน่น ก่อนจะค่อยๆหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า


..........😂😂😂😂😂😂😂😂..............




ภายในกระท่อมไม้เล็กๆ สองหลัง หิมะปกคลุมไปทั่ว ที่แห่งนี้เป็นที่ที่พวกทหารผีดิบเกลียดที่สุด ความเย็น

เด็กน้อยที่ไปหาแม่เคาะบานประตูอยู่หลายครั้งหากแต่ประตูไม่เปิด

"ว๊า....คงไม่ได้เจอท่านแม่อีกแล้วแน่เลย องค์ชายอะไรนั่นคอยขัดขวางตลอด ไปหาน้าเซฮุนก็ได้" เด็กน้อยเดินไปบ้านอีกฝั่งยังไม่ทันเคาะประตูบานประตูก็เปิดออก
"ว่าไง" ยีหัวหลานรักอย่างเอ็นดู
"น้าเซฮุนแล้วท่านคิมไคละ" เด็กน้อยชะเง้อมอง เพราะว่าเขาเห็นคิมไคลุกไปจากเตียงแต่เช้าก่อนที่เขาจะตื่นขึ้น
"ยังหลับอยู่เลยไปปลุกเค้ากันเถอะ" ถาดแม่สีพร้อมด้วยพู่กันเตรียมละเลงใบหน้าหล่อเหลาเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ เด็กน้อยยิ้มแล้วเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ และสองน้าหลานก็ลงมือละเลงสีลงบนใบหน้าสีน้ำผึ้งจนเลอะเทอะไปหมด




..........


"อ๊ะ...."  หญิงสาวตื่นมาด้วยความเจ็บปวด ปวดหนึบไปทั้งตัว ร่างกายเปลือยเปล่าค่อยๆขยับลงจากเตียง

*หมับ* เอวเล็กถูกโอบไว้เพียงแขนข้างเดียว

"ปล่อย....เดี่ยวลูกเข้ามาเห็น" ใบหน้างองุ้มแสนงอนเผยออกมาให้เห็น แก้มกลมฝาดเลือดขึ้นสีสวย

"ข้าคิดว่าฟาร์ฮาร์ลคงไปเล่นกับพ่อแม่เลี้ยงของเขาอยู่ตอนนี้ และข้าคิดว่าเขาคงอยากมีเพื่อเล่น

"ไม่นะ ข้าเจ็บตัวอยู่ ไม่ทำแล้ว" มือเรียวผลักแผงอกใหออกห่าง

"แต่เมื่อคืนเจ้าเรียกร้องขอข้าทั้งคืนเลยหนิ" แสนอับอาย ทุกอย่างเป็นความจริง เรื่องเมื่อคืนมันเป็นเพราะคนตรงหน้าขืนใจเขาและมันทำให้ทุกอย่างหยุดลงไม่ได้


"ปล่อยข้านะ"
"อื้อ...บอกให้ปล่อยไง"

"ฮึก...แค่นี้คงไม่สะใจท่านใช่มั้ย คงต้องให้ร่างของข้าแหลกละเอียดไปเสียต่อหน้าต่อตาท่านเลยใช่หรือไม่ ท่านถึงจะพอใจ" ค่อยๆคลายท่อนแขนหนาออกและกอดร่างบางไว้เพียงหลวมๆ
ในใจมันบีบรัดแน่นเสียเหลือเกินยามเห็นคนในอ้อมกอดร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในตอนนี้

😁😁😁😁😁😁😁😁😁😁

3 ความคิดเห็น: